Tuesday, October 14, 2008

นี่สิ กัปตัน ตัวจริง ขอคารวะ

จดหมายจากเวียงจันทน์

กัปตัน (นาวาอากาศตรี) จักรี จงศิริ ขอแถลง แถลงการณ์นี้เขียนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2551 ที่นครเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสงบสุข ประชาชน ประเทศนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทั้งใบหน้าและจิตใจ เขาอยู่กันอย่างเรียบง่าย ผู้หญิงสวมผ้าถุง เสื้อแขนกระบอก ตอนเช้าผู้คนจะออกมาใส่บาตรทำบุญ สร้างบุญบารมีไว้ชาติภพหน้า เห็นแล้วผมรู้สึกดีกับประชาชนของประเทศนี้มาก เวลานี้เป็นเวลาตี 3 ผมนอนไม่หลับ คิดว่าทำไมจะให้ประเทศชาติของเราจะกลับไปมีความสุขแบบในเมื่ออดีต ตอนเป็นเด็กๆ ประเทศของเราดูคล้ายกับลาวมาก แล้วอะไรที่ทำให้สองประเทศนี้จึงแตกต่างกันมายมายขณะนี้ ความเจริญที่เข้ามามาก ที่เข้ามาขับไล่ความสงบสุขออกไป คนขาดซึ่งศีลธรรมจรรยา เพราะมุ่งเพียงเพื่อความรอดของชีวิต สังคมมีแต่ผู้รับไม่มีผู้ให้ คิดแต่ว่าในวันนี้เราจะได้รับอะไรบ้าง จะรับจากใครที่ไหนและอย่างไร สังคมไทยจึงมีแต่ความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเพื่อที่จะเป็นผู้รับ ดังนั้นประเทศไทยจึงถูกซื้อได้จากผู้ที่มีอำนาจเงินมหาศาล ซึ่งจะซื้อบุคล ทุกสถาบันในประเทศ เพราะคนไทยในทุกสถาบันล้วนเป็นผู้รับ ขณะนี้ผมก็ใคร่ขอให้ผู้คนซึ่งอยู่ในองค์กร สถาบันต่างๆ ที่เงินไม่อาจซื้อได้ และเป็นคนที่มีใจเป็นธรรมะ, เป็นผู้ให้ ได้ออกมาแสดงจุดยืนแสดงตัวตนของตนเอง ซึ่งสามารถคิดแยกแยะได้ในสิ่งดีงามและสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ผมขอให้พวกท่านออกมาแทรกอยู่ตรงกลางของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในประเทศของเราทุกวันนี้ ประเทศของเรากำลังต้องการบุคคลอย่างท่าน กระผมเองก็เป็นบุคคลเช่นท่าน ขณะนี้ผมได้ออกมาแล้วในฐานะที่เป็นประชาชนที่รักประเทศชาติ รักแผ่นดินเกิด รักศาสนา และพระมหากษัตริย์ แต่กระผมคนเดียวนั้นยังไม่เพียงพอ ขอให้คนในทุกองค์กรโปรดแสดงตัวตนที่แท้จริงออกก่อนที่จะสายเกินไป ณ เวลานั้น ท่านจะเกิดเสียดาย เพราะผู้คนส่วนใหญ่จะต้องล้มตายไปอีกกี่ร้อยกี่พันชีวิต ขณะนี้ผู้คนเหล่านี้เขาอ่อนแรงเต็มที่แล้ว พร้อมที่จะถูกใช้กำลังสลายได้ทุกเมื่อ ผมไม่ต้องการเห็นคนไทย ประชาชนไทยร่างกายฉีกขาดได้อีกต่อไปแล้ว และท่านเองก็คงไม่ต้องการเห็นเช่นกัน เมื่อวันที่ 8 ตอนเช้านั้น ผมได้เห็นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงภาพผู้คนซึ่งเป็นคนไทยถูกทำร้ายด้วยอาวุธ ร่างกายฉีกขาด เลือดนองพื้น เป็นภาพซึ่งผมเห็นแล้วรู้สึกอนาจใจอย่างมากที่รัฐบาลโดยการนำของพรรคพลังประชาชน เข่นฆ่าประชาชน โดยคนในพรรคนี้เห็นดีเห็นงามต่อการกระทำกับประชาชน จิตใจของพวกท่านทำด้วยอะไร เพียงเพื่อต้องการที่จะไปอ่านนโยบายบริหารประเทศ ท่านก็ฆ่าฟันผู้คนเข้าไปอ่านนโยบายแล้ว ฉะนั้นภายในนโยบายบริหารเหล่านั้นท่านคงจะต้องฆ่าประชาชนคนไทยไปอีกกี่ศพ ท่านจึงจะบรรลุนโยบายการบริหารประเทศของท่าน ด้วยความคิดดังนั้น ผมเองจึงตัดสินใจที่จะไม่รับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากพรรคพลังประชาชน สาเหตุเพราะหนังสือพิมพ์ซึ่งมีภาพผู้คนที่ถูกเข่นฆ่าเหล่านั้น เมื่อผู้โดยสารท่านอื่นที่โดยสารไปในเที่ยวบินนั้นได้เห็นภาพและข่าว อาจเกิดบันดาลโทสะ ขาดการยับยั้ง ยกมารุมทำร้าย ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ขณะที่เตรียมขึ้นบินอยู่ ได้รับบาดเจ็บและล้มตายให้ตกไปตามกันก็ได้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนเข้าเครื่องในวันดังกล่าว ซึ่งถ้าการสอบสวนว่าผมกระทำความผิด และให้ผมไปกล่าวคำขอโทษ ส.ส.เหล่านั้น ก็ขอให้ลงโทษด้วยการฆ่าผมเสียดีกว่าที่จะให้ผมไปกล่าวคำขอโทษกับคนที่ไม่มีศีลธรรมเหล่านั้นให้เสียศักดิ์ศรีของความเป็นชายชาติทหารนักรบอย่างผม สุดท้ายนี้ ผมคิดว่า ถ้าประชาชนถูกเข่นฆ่าด้วยอาวุธอีก ร่างกายฉีกขาดเป็นชิ้นส่วน กระจายเลือดแดงนองพื้น สภาพศพแต่ละศพไม่ครบ 32 แล้วเราก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมไทยได้ เป็นเวรกรรมกันต่อไปอีกไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ สู้ขอให้เรายอมตายด้วยการอารยะขัดขืนสูงสุดคือ เรามาร่วมกันอดอาหารเพื่อขอให้มีผู้นำของประชาชนคนใหม่ นำไทยไปสู่อนาคตที่สังคมมีแต่ผู้ให้ด้วยเทอญ และ ขออดอาหารจนตายถ้าเรายังไม่ได้ผู้นำของประชาชนคนใหม่ ขอให้ท่านออกมาเถิด เราจะรอท่านไปจนตาย ถ้าท่านไม่ออกมา กัปตันจักรี จงศิริ ผู้ที่จะยอมเสียชีวิตโดยไม่ยอมเสียเกียรติและศักดิ์ศรี เวลา ตี 4 13 ต.ค. 51

ขอขอบคุณ สื่อดีๆ อย่าง ผู้จัดการ และ ASTV